บริษัท คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่ รวมถึงกลุ่มบริษัท (ตามที่ได้ให้คำนิยามไว้ข้างล่าง) ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อการดำเนินงานและแสดงถึงความน่าเชื่อถือของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของผู้ที่เกี่ยวข้อง
และพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท ในทุกช่องทางการขาย
กรรมการและพนักงานของบริษัทคู่ค้าและคู่ค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา รวมไปถึงบุคลากรของบริษัท ผู้มาติดต่อกับบริษัท
รวมถึงผู้เข้าร่วมในกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ ของบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำและประกาศใช้แนวนโยบายนี้ขึ้น
เพื่อให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเพื่ออธิบายถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวมใช้
และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบภายในบริษัทและที่ปรึกษากฎหมายภายนอกบริษัท โ
ดยบริษัทให้ความสำคัญกับการเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน และเพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. เพื่อให้การทำธุรกรรมกับบริษัทและกลุ่มบริษัทมีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ และสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
2. เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาประโยชน์โดยทุจริต หรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
3. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 ขอบเขต
นโยบายฉบับนี้ใช้บังคับกับบริษัท โดยบริษัทย่อยของบริษัทสามารถนำนโยบายฉบับนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบททางธุรกิจและกระบวนการบริหารภายในของแต่ละบริษัทบนพื้นฐานของภูมิสังคมของแต่ละประเทศให้มีความสอดคล้องกัน
1.2 นิยาม
• กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึง พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือแนวปฏิบัติ (Guideline) ใด ๆ ที่ออกภายใต้พระบัญญัติดังกล่าว
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลใดซึ่งสามารถใช้ระบุตัวตนของบุคคลดังกล่าวได้ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ (anonymous data) เช่น ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขบัตรประชาชน, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล (email address) ข้อมูลบัตรเครดิต ภาพถ่ายของท่าน, เชื้อชาติ, สัญชาติ, ศาสนา, วันเดือนปีเกิด, ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการ, ข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายความรวมถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, ความคิดเห็นทางการเมือง, ความเชื่อในลัทธิ, ศาสนาหรือปรัชญา, พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ, ความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ, หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
• ประมวลผล หมายถึง เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
• กลุ่มบริษัท หมายถึง บริษัทและบริษัทย่อย
• บริษัทย่อย หมายถึง บริษัทซึ่งบริษัท
• (1) ถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม และหรือ
• (2) มีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้น ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม และหรือ
• (3) มีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการตั้งแต่กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม
• บุคลากร หมายถึง กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน รวมถึงที่ปรึกษา
• กรรมการ หมายถึง กรรมการของบริษัท และหรือบริษัทย่อย
• คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง กลุ่มบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทให้มีหน้าที่ในการติดตาม ตรวจสอบ และให้คำแนะนำการประมวลผลข้อมูลของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
• ผู้บริหารระดับสูง หมายถึง ประธานคณะผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละกลุ่มธุรกิจ (Business Unit) และหน่วยงานสนับสนุน (Support Unit) ของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย
• พนักงาน หมายถึง ผู้บริหารและพนักงานที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนและรายวันของบริษัท หรือบริษัทย่อย ไม่ว่าจะเป็นการว่าจ้างประจำหรือชั่วคราว หรือการว่าจ้างด้วยสัญญาพิเศษ
• ท่าน หมายถึง ลูกค้า ผู้ใช้บริการ คู่ค้า พนักงาน ผู้รับจ้างของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านสำนักงานใหญ่ สาขา หรือผ่านสื่อออนไลน์ทุกช่องทางของบริษัท
1.3 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ซึ่งท่านได้ให้ไว้กับบริษัทโดยทางตรงหรือเกิดจากการใช้บริการหรือการติดต่อสื่อสารกับบริษัท ทั้งในรูปแบบเอกสารหรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บจะดำเนินการให้ได้มาด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และเหมาะสม และการจัดเก็บเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงผลกระทบของการไม่ให้ข้อมูล และบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บรวบรวมนั้นสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน บริษัทจะดำเนินการให้ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บรวบรวมนั้นสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นๆ ซึ่งบริษัทจะได้แจ้งให้ท่านทราบก่อนการซื้อสินค้า ใช้บริการ ติดต่อสื่อสาร หรือเข้าทำสัญญาในแต่ละเรื่อง และหากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ ซึ่งบริษัทจะเปิดเผยไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท
1.4 บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรของบริษัท
โดยที่บุคลากรของบริษัททุกคนมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายความเป็นส่วนตัว และนโยบายและแนวทางปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัย บุคลากรแต่ละคนจึงมีหน้าที่และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้
1. คณะกรรมการบริษัท
• กำกับดูแล ส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทมีกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• สนับสนุนการทำงานของหน่วยธุรกิจ (Business Unit) และหน่วยงานสนับสนุน (Support Unit) หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
2. คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• กำหนดนโยบายและการแผนดำเนินการ และนโยบายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย
• ให้คำปรึกษาและแนะนำคณะกรรมการ ผู้บริหารระดับสูง และพนักงานของกลุ่มบริษัท ในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• ติดตาม ตรวจสอบ และกำกับดูแลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท รวมถึงบุคลากรของกลุ่มบริษัท เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• เป็นศูนย์กลางในการติดต่อเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล การปกป้องสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ
• รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ล่วงรู้หรือได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือตามนโยบายฉบับนี้
• สร้างและส่งเสริมความตระหนักรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• แต่งตั้งและกำหนดหน้าที่ของบุคลากรตามที่กฎหมายกำหนด
3. ผู้บริหารระดับสูง
• จัดให้มีระเบียบปฏิบัติและมาตรการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและตามมาตรฐานสากลซึ่งเป็นที่ยอมรับ ทั้งในกรณีที่หน่วยงานที่ตนดูแลรับผิดชอบเป็นผู้ประมวลผลเองหรือกรณีว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการแทน
• กำกับดูแลให้มีโครงสร้างและผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายนี้
• กำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบาย แนวปฏิบัติ และระเบียบปฏิบัติ ตลอดจนพัฒนาปรับปรุงวิธีการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้มีการรายงานผลอย่างสม่ำเสมอ
4. หน่วยธุรกิจ (Business Unit) และหน่วยงานสนับสนุน (Support Unit) ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
• ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และดำเนินการตามนโยบาย ระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัท
• กำหนดระเบียบปฎิบัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหน่วยงานของตน
5. พนักงาน
• ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และตามนโยบาย ตลอดจนระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
• แจ้งผู้บังคับบัญชา และ/หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทันที เมื่อพบการรั่วไหลหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
• เมื่อพบเห็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนนโยบายฉบับนี้ ให้แจ้งเรื่องการฝ่าฝืนดังกล่าวผ่านช่องทางตามนโยบายการแจ้งเบาะแสของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย
6. บทกำหนดโทษ
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ของตน หากละเลย หรือละเว้นไม่สั่งการหรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตน อันเป็นการฝ่าฝืนนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมายหรือความเสียหายขึ้น ผู้นั้นต้องรับโทษทางวินัยตามระเบียบของบริษัท โดยบริษัทจะไม่ประนีประนอมให้กับความผิดใดๆ ที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้กระทำขึ้น และผู้นั้นต้องรับโทษทางกฎหมายตามความผิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากความผิดดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทหรือบุคคลอื่นใด บริษัทอาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
1.5 การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ทราบหรือตามสัญญา หรือเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการติดต่อสื่อสาร หรือติดต่อทางธุรกิจกับท่าน หรือได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว หรือเป็นกรณีที่บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้เท่านั้น และบริษัทจะดูแลไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทเปิดเผย แสดง หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎในลักษณะอื่นนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ทราบหรือที่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจถูกนำไปใช้ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ เพื่อการพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ การส่งเสริมด้านการตลาด การให้ข้อมูลและหรือ รายการอัพเดทเกี่ยวกับสินค้าตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุด
1.6 การเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลที่สาม
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดของท่านโดยปราศจากความยินยอมของท่านหรือนอกเหนือไปจากกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน บริษัทอาจจะมีการส่งต่อ โอน และหรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แก่บริษัทที่อยู่ใน “กลุ่มบริษัท” ผู้สอบบัญชี หรือพันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทเป็นคู่สัญญาไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ เฉพาะเพื่อการตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อการอันเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการแก่ท่าน หรือเพื่อการใดตามที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ในกรณีที่ผู้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในประเทศที่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด บริษัทจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่เหมาะสมแล้วแต่กรณี
บริษัทเคารพสิทธิในการความเป็นส่วนตัว อันมาจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลของท่านที่บริษัทได้รับตามหลักการข้างต้น จะถูกนำไปใช้หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบ หรือตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
1.7 การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
บริษัท คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีนโยบายการรักษาความปลอดภัย และระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง แก้ไข ลบ ทำลาย หรือนำไปใช้ เปิดเผย โดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บริษัทจะจัดให้มีมาตรการทางเทคนิคในระบบข้อมูล IT ซึ่งใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้การใช้งานอุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลที่ใช้จัดการข้อมูลส่วนบุคคลมีความถูกต้องแม่นยำและทำงานโดยรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยอยู่เสมอ รวมถึงจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่จำเป็นต้องลบตามกฎหมาย และจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัทโดยกำหนดมาตรการจัดการการฝึกอบรมเพื่อเรียนรู้และใช้งานระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น รวมถึงข้อปฏิบัติที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าบุคลากรของบริษัทปฏิบัติงานโดยมีความเข้าใจและตระหนักถึงความรับผิดชอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และส่งเสริมพัฒนาบุคลากรที่ดูแลระบบ IT ให้มีความเชี่ยวชาญ และทันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ใหม่ๆ โดยบริษัทจะจัดให้มีการประเมินผลและตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ของบริษัท และตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะ เพื่อประเมินสถานะและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลว่ายังคงเหมาะสมหรือไม่เพื่อประเมินและลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุการณ์ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ การรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย แม้บริษัทจะได้จัดให้มีมาตรการความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม แต่บริษัทไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ท่านเปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ดังนั้น บริษัทจึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จากการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยมิได้รับอนุญาต (Unauthorized Access)
อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านควรปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการที่บริษัทกำหนดในทุกช่องทางการให้บริการของบริษัท สำหรับการรับส่งข้อมูลการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางอินเตอร์เน็ต บริษัทเชื่อมต่อระบบกับธนาคารผ่านระบบที่มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ข้อมูลบัตรเครดิตของท่านถูกจัดเก็บไว้ที่ธนาคารเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
1.8 ความมีส่วนร่วมหรือสิทธิในการเข้าถึง และหรือ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยแจ้งคำร้องผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัท เช่น Call Center, สาขา หรือ เว็บไซต์ของบริษัท โดยบริษัทจะดำเนินการแจ้งถึงความมีอยู่ และรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว แก่ท่าน หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านสามารถแจ้งแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเคลื่อนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน คัดค้านการประมวลผล ขอให้ระงับการใช้ หรือดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทอาจมีสิทธิปฏิเสธหรือจำกัดสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ตามที่กฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลกำหนด โดยบริษัทจะพยายามตอบกลับคำขอที่โดยชอบด้วยกฎหมายของท่านภายในเวลา 30 วัน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอหลายคำขอ ในกรณีนี้ บริษัทจะแจ้งท่านและคอยรายงานความคืบหน้าของกรณีให้ท่านทราบ
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือให้บริษัทลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าท่านอาจจะไม่สามารถใช้บริการบางอย่างของบริษัทได้ หรืออาจทำให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการ
1.9 การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ การดำเนินงานของบริษัท และข้อเสนอแนะความคิดเห็นจากท่าน ซึ่งบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบบนเว็บไซต์ของบริษัท หรืออาจส่งประกาศแจ้งให้ท่านทราบโดยตรง
ทั้งนี้ ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทนำมาประมวลผล วัตถุประสงค์ในการใช้ประมวลผล กรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานที่อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปต่างประเทศ รวมถึงเหตุผลและวิธีการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น ได้ที่
kingwatsadu@gmail.com
บริษัท คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่ (“บริษัทฯ”) มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รักษาข้อมูลของลูกค้าให้ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และโปร่งใส เอกสารการแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“ เอกสารฯ”) ระบุเหตุผลในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอธิบายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวมจากลูกค้าและบุคคลต่าง ๆ ซึ่งบริษัทฯ ทำธุรกิจด้วย และวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลดังกล่าว
1. บทนำ
บริษัท คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่ (“บริษัทฯ”) มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รักษาข้อมูลของลูกค้าให้ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และโปร่งใส เอกสารการแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“ เอกสารฯ”) ระบุเหตุผลในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอธิบายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวมจากลูกค้าและบุคคลต่าง ๆ ซึ่งบริษัทฯ ทำธุรกิจด้วย และวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลดังกล่าว
2. การบังคับใช้
เอกสารฯ นี้ใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงบริการของบริษัทฯ เช่น
• “บริการของบริษัทฯ” ได้แก่ การจำหน่ายสินค้าหรือการให้บริการของบริษัทฯ แก่ลูกค้าของบริษัทฯ
• “บริการของคู่ค้า” ได้แก่ การจำหน่ายสินค้าหรือการให้บริการแก่บริษัทฯ โดยบริษัทคู่ค้าหรือผู้ให้บริการของบริษัทฯ เช่น การจัดส่งสินค้า การติดตั้งสินค้า การให้บริการซ่อมแซมสินค้าแก่ลูกค้าของบริษัทฯ
• “บริการผู้มาเยือน” ได้แก่ การจัดหาโดยบริษัทฯ ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงห้องประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จัดให้แก่ผู้มาเยือนในส่วนสำนักงานของ บริษัทฯ ซึ่งรวมถึงลูกค้า หรือผู้มาติดต่ออื่น ๆ
ทั้งนี้ รวมไปถึง การดำเนินการอย่างใด ๆ กับข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการต่าง ๆ ข้างต้น การบริหารจัดการภายในบริษัทฯ และการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ
การอ้างถึงคำว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน” ในเอกสารฯ นี้ เป็นการอ้างถึงบุคคลซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวนั้นถูกประมวลผลโดยหรือในนามของบริษัทฯ เกี่ยวกับบริการของบริษัทฯ บริการของคู่ค้า หรือบริการผู้มาเยือน อนึ่ง
• การอ้างถึงคำว่า “ลูกค้า” หรือ “คู่ค้า” ในเอกสารฯ นี้ ให้รวมถึงลูกจ้าง พนักงาน กรรมการ หรือตัวแทนของลูกค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลด้วย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวนั้นถูกประมวลผลโดยหรือในนามของบริษัทฯ และ
• เอกสารฯ นี้ใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล (รวมถึงลูกจ้างหรือพนักงานของบุคคลนั้น) ซึ่งอาจจะเป็นคู่สัญญาในธุรกรรม หรือคู่ความหรือคู่พิพาทในการกระบวนการทางกฎหมายซึ่งบริษัทฯ เกี่ยวข้องอยู่ด้วย
การอ้างถึงคำว่า “บริษัทฯ” หรือ “เรา” หรือ “ของเรา” ในเอกสารฯ นี้ เป็นการอ้างถึงบริษัท คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่
3. ข้อมูลเกี่ยวกับท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (“ข้อมูล” หรือ “ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับท่านซึ่งสามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ (anonymous data)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว รวมถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวในกรณีจำกัด เช่น ข้อมูลเรื่องศาสนา โปรดพิจารณารายละเอียดของการเก็บข้อมูลเฉพาะกรณีดังกล่าว ในข้อ 4 (วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการใช้ข้อมูลของท่านโดยบริษัทฯ) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวในกรณีจำกัด ซึ่งกรณีเช่นนี้จะเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ (เช่น กรณีที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงิน) หรือกรณีที่ท่านให้ข้อมูลนั้นซึ่งจำเป็นสำหรับการให้บริการบางประเภทของบริษัทฯ หรือในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม
บริษัทฯ อาจได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากหลายช่องทาง เช่น:
• บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง จากการที่ท่านได้ทำการสมัครสมาชิก KingCard กับบริษัทฯ หรือจากการสมัครขอใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือจุดให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท หรือจากการติดต่อต่าง ๆ ของท่านในทุกช่องทางการติดต่อของบริษัทฯ
• บริษัทฯ ยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากบุคคลที่สาม หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ หรือจากแหล่งอื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทย่อย พันธมิตรทางธุรกิจ สถาบันการเงิน ที่ปรึกษาทางการเงิน หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่น ๆ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
• บริษัทฯ ยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการทำธุรกรรมระหว่างท่านกับบริษัทหรือโดยที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเอง เช่น ประวัติการสั่งซื้อสินค้าและการใช้บริการของบริษัท การใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือข้อมูลกล้องวงจรปิดของบริษัทฯ
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ใช้
บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลประเภทต่าง ๆ ของท่าน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดแบ่งข้อมูลของท่านออกเป็นประเภทต่าง ๆ ตามท้ายนี้ โดยระบุข้อกำหนดการใช้ข้อมูลในแต่ละประเภทโดยบริษัทฯ หรือในนามของบริษัทฯ ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าวได้นำมาใช้ในเอกสารฯ ฉบับนี้
รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ:
• ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ ข้อมูลเกี่ยวกับที่พักอาศัย สภาพที่พักอาศัย จำนวนผู้พักอาศัย รายละเอียดการเดินทางไปที่พักอาศัย ภาพถ่ายที่พักอาศัย ภาพถ่ายของท่าน สัญชาติ รายได้ต่อครอบครัว ระดับการศึกษา อาชีพ เป็นต้น
• ข้อมูลที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง บัตรสมาชิก KingCard หรือเอกสารระบุตัวตนอื่น ได้แก่ (1) ชื่อและนามสกุล (2) หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรสมาชิก KingCard (3) วันเดือนปีเกิด (4) ที่อยู่ (5) ภาพถ่ายของผู้ถือบัตร (6) หมู่เลือด และ (7) ศาสนา รวมถึงรหัสลูกค้า รหัสผ่านบัญชี KingCard และหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
• ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ เช่น (1) หมายเลขโทรศัพท์ (2) หมายเลขโทรสาร (3) อีเมล (4) ที่อยู่ (5) ละติจูด-ลองจิจูด สถานที่โครงการ พื้นที่ก่อสร้าง โครงการต่าง ๆ รวมถึง รูปถ่ายและแผนที่สถานที่โครงการหรือสถานที่ ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ท่านใช้เพื่อติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ชื่อบัญชี หรือรูปถ่าย
• ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในหนังสือรับรองนิติบุคคล ที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ ชื่อและนามสกุลของกรรมการ ผู้ถือหุ้น และที่อยู่ของกรรมการและผู้ถือหุ้น
• ข้อมูลที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ได้แก่ (1) เลขรหัสประจำบ้าน (2) ที่อยู่ (3) ประเภทและลักษณะบ้าน (4) สัญชาติ (5) เพศ (6) ชื่อและนามสกุลของบิดามารดาผู้ให้กำเนิด (7) เลขประจำตัวประชาชนของบิดามารดา (8) สัญชาติของบิดามารดา และ (9) ถิ่นที่อยู่เดิมของท่าน
ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเรา:
• ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการทำธุรกรรมระหว่างท่านกับเรา เช่น ประวัติการซื้อ ประวัติการใช้บริการ ประวัติการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า ซึ่งรวมถึงข้อมูลการเยี่ยมชมสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ของเรา
• ข้อมูลสิทธิประโยชน์ของสมาชิก เช่น ข้อมูลคะแนน KingCard การสะสมคะแนน การแลกคะแนนเพื่อรับส่วนลด หรือรับโปรโมชัน รวมถึงข้อมูลจากบัตร Home Service Card
• ข้อมูลการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับเราในทุกช่องทาง ซึ่งอาจรวมถึงประวัติการสนทนาผ่านข้อความ ไฟล์เสียงสนทนา รายละเอียดของเรื่องที่สนทนา เช่น รายละเอียดของเรื่องการติดต่อ ปัญหา ข้อร้องเรียนบริการของเรา ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในเอกสารการร้องเรียนการใช้สินค้าหรือบริการของเรา เช่น หนังสือระงับข้อพิพาท จดหมายจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจ เอกสารจากศาล และใบรับรองแพทย์ที่อาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลอาชญากรรม
• ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับเรา ซึ่งอาจรวมถึงแรงจูงใจของท่านในการซื้อสินค้าหรือบริการของเรา
• ข้อมูลที่เกี่ยวกับสุขภาพของท่านที่มีความจำเป็นต้องเก็บเพื่อใช้ทำธุรกรรมกับบริษัทฯ หรือตามกฎหมาย
ข้อมูลทางการเงินสำหรับการชำระหนี้
• ข้อมูลที่ท่านให้บริษัทฯ ที่เกี่ยวกับรายละเอียดของบัญชีธนาคาร และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เพื่อการชำระเงินต่าง ๆ
ข้อมูลกล้องวงจรปิด
• ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทฯ
• ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าและข้อมูลภาพจำลองใบหน้า (facial recognition) ของท่าน
ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์
• ข้อมูลคุกกี้ (Cookies) ต่าง ๆ ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมในระหว่างที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เช่น รายการสินค้าที่ท่านเลือกชมล่าสุด ภาษาที่ท่านเลือกใช้ รายการสินค้าในตะกร้าของท่าน
บริษัทฯ มิได้มุ่งหรือประสงค์จะให้บริการแก่ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในการติดต่อสื่อสารหรือกระทำการอย่างใดกับบริษัท และไม่ว่าผ่านช่องทางใด หากท่านมีความประสงค์จะกระทำการใดกับบริษัท ท่านรับทราบว่าจะต้องได้รับความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตามบริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลของบุคคลดังกล่าวเมื่อบริษัทฯ มีการให้บริการแก่ลูกค้า บริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์เฉพาะด้านซึ่งบริษัทฯ จัดให้หรือได้รับเท่านั้น
4. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการที่บริษัทฯ ใช้ข้อมูลของท่าน
บริษัทฯ แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของท่าน และฐานทางกฎหมายที่ใช้ในการใช้ข้อมูลนั้นตามตารางข้างล่างนี้ โดยบริษัทฯ ได้ระบุถึงประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ที่ใช้เป็นฐานในการประมวลผลข้อมูลของท่านในกรณีที่เกี่ยวข้องด้วย
บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลของท่านบนฐานทางกฎหมายมากกว่าหนึ่งฐาน หรือแตกต่างไปจากที่แสดงในตารางข้างล่างนี้ ทั้งนี้ขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของท่านในแต่ละกรณี กรุณาติดต่อ Kingwatsadu@gmail.com หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฐานทางกฎหมายซึ่งบริษัทฯ ใช้ในการประมวลผลข้อมูลของท่านในกรณีมีการอ้างอิงฐานทางกฎหมายมากกว่าหนึ่งฐานตามตารางท้ายนี้
เพื่อให้บริการและขายสินค้าแก่ลูกค้า เช่น การให้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าผ่านทุกช่องทางการติดต่อรวมถึงเว็บไซต์ของบริษัทฯการดำเนินการส่งสินค้าแก่ลูกค้ารวมถึงการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า เช่น การบริการติดตั้งสินค้า การเปลี่ยนหรือคืนสินค้า การซ่อมแซมสินค้า บริการอื่นที่บริษัทฯ ได้นำเสนอผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลการจัดส่งสินค้าให้แก่บริษัทผู้ผลิต ผู้จัดส่ง ผู้ให้บริการ การเปิดเผยข้อมูลการเปลี่ยน คืน หรือซ่อมแซมสินค้าให้กับคู่ค้าของบริษัทฯ การแลกรับผลิตภัณฑ์ส่งเสริมการขาย (โปรโมชั่น) การรับฝากและคืนของที่รับฝากของลูกค้าในบริเวณสาขา การรับประกันความเสียหาย และการติดต่อลูกค้าเพื่อกรณีใดๆ ข้างต้น | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเราข้อมูลทางการเงินสำหรับการชำระหนี้ | เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เพื่อใช้ระบุตัวตนของท่านหรืออำนาจของท่านในการกระทำการในนามของบริษัทซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ หรือในฐานะคู่สัญญาในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ |
เพื่อออกเอกสารตามคำร้องขอของลูกค้าหรือตามกฎหมาย เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ใบลดหนี้ | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเราข้อมูลทางการเงินสำหรับชำระหนี้ | การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อใช้ระบุตัวตนของท่านหรืออำนาจของท่านในการกระทำการในนามของบริษัทซึ่งเป็นลูกค้าของเรา หรือในฐานะคู่สัญญาในการเข้าทำสัญญากับเรา หรืออาจเป็นคู่สัญญาในธุรกรรม หรือผู้ฟ้องร้องในการพิจารณาคดีทางกฎหมายซึ่งบริษัทฯ เกี่ยวข้องอยู่ด้วย | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเรา | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เพื่อใช้ระบุตัวตนของท่านหรืออำนาจของท่านในการกระทำการในนามของบริษัทซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ หรือในฐานะคู่สัญญาในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ |
เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การวิเคราะห์พฤติกรรมการชื้อของท่าน จัดกลุ่มลูกค้าเพื่อทำโปรโมชั่นต่าง ๆ สื่อสารสิทธิประโยชน์แก่สมาชิก KingCard แจ้งข่าวสาร ติดต่อเสนอขายสินค้าหรือบริการหรือนำเสนอโปรโมชั่นที่เหมาะกับท่าน การร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจของเราในการจัด Campaign ร่วมกัน การติดตามคุณภาพการให้บริการและประเมินความพึงพอใจของลูกค้า | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเรา ข้อมูลกล้องวงจรปิด | ความยินยอมเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เพื่อการพัฒนาการให้บริการในอนาคตของบริษัทฯ |
เพื่อรับท่านเข้ามาเป็นคู่ค้ารายใหม่ และเพื่อการเข้าทำสัญญากับคู่ค้า รวมถึงการเปิดบัญชีกับคู่ค้า การทำการตรวจสอบข้อมูลตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงิน การก่อการร้าย การคัดกรองผู้ถูกมาตรการลงโทษ การทุจริตฉ้อฉล รวมถึงการตรวจข้อมูลเบื้องต้นอื่น ๆ และเพื่อระบุตัวตนของท่านหรืออำนาจของท่านในการกระทำการในนามของบริษัทซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ หรือในฐานะคู่สัญญาในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ | เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทฯ ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้รับจากอาญชากรรม หรือสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมายหรือการฉ้อฉล เช่น การก่อการร้าย |
เพื่อติดต่อประสานงาน จัดคิวงาน ติดตามงาน และบริหารจัดการการปฏิบัติตามสัญญากับท่าน | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ | เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
การจัดการในการชำระเงิน ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าเรียกเก็บ และการจัดเก็บและติดตามหนี้ของบริษัทฯ | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อข้อมูลทางการเงินสำหรับการชำระหนี้ | เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา |
เพื่อการให้บริการแก่ผู้มาเยือน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการสถานที่ | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ ข้อมูลกล้องวงจรปิด | เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตรวจสอบและป้องกันการเข้าถึงสถานที่ประกอบการและพื้นที่หวงห้ามของบริษัทฯโดยไม่ได้รับอนุญาต |
เพื่อจัดการเรื่องร้องเรียน การติดตามและแก้ไขเรื่องร้องเรียน และเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเรา ข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวกับข้อร้องเรียน เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลกล้องวงจรปิด | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เพื่อใช้ระบุตัวตนของท่านหรืออำนาจของท่านในการกระทำการในนามของบริษัทซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทฯ หรือในฐานะคู่สัญญาในการเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ เพื่อใช้สิทธิหรือต่อสู้คดีทางศาลหรือการสอบสวนของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง และเพื่อจัดการเรื่องร้องเรียนและเพื่อการปรับปรุงการบริการของเรา การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย |
เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลที่บริษัทฯ เป็นผู้เก็บรักษา เช่น การจัดเก็บข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร ไว้ที่ผู้ให้บริการคลังสินค้าหรือผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลอื่น เช่น Cloud | รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเรา ข้อมูลทางการเงินสำหรับการชำระหนี้ ข้อมูลทางการเงินสำหรับการชำระหนี้ ข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวกับข้อร้องเรียน เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย กล่าวคือ เพื่อประโยชน์ในการจัดการข้อมูลของบริษัทฯ |
จะถูกใช้เพื่อตรวจจับและป้องกันอาชญากรรม ตรวจจับและป้องกันเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ตรวจจับและป้องกันการการเข้ามาในสถานที่ของบริษัทฯ และพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจจับและป้องกันการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง สนับสนุนงานสอบสวนกรณีความมั่นคง ความปลอดภัย และกิจการภายใน สนับสนุนการสอบสวนอาชญากรรม และเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความมั่นคงและปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการซักซ้อมฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ในบางกรณีที่เป็นส่วนน้อยอาจจะมีการซ่อนกล้องวงจรปิดเพื่อการใช้งานตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้การประมวลผลข้อมูลกล้องวงจรปิดเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลกล้องวงจรปิดในการระบุตัวตนลูกค้า VIP เพื่อการให้บริการและเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การให้บริการช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเมื่อลูกค้า VIP เข้ามาในบริเวณสาขา การจัดกลุ่มลูกค้า VIP เพื่อทำโปรโมชั่นและสื่อสารสิทธิประโยชน์ การแจ้งข่าวสาร การเสนอขายสินค้าหรือบริการ หรือนำเสนอโปรโมชั่นที่จัดทำเพื่อลูกค้า VIP โดยเฉพาะ การติดตามคุณภาพการให้บริการและประเมินความพึงพอใจของลูกค้า VIP
กรณีที่ท่านไม่เปิดเผยข้อมูลของท่านให้บริษัทฯในกรณีที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามกฎหมาย หรือจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามข้อกำหนดในสัญญาที่บริษัทฯ ทำไว้กับท่าน แต่ท่านไม่เปิดเผยข้อมูลของท่านเมื่อได้รับการร้องขอ บริษัทฯ อาจไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ ได้ทำ หรือจะเข้าทำกับท่าน (เช่น การให้บริการแก่ท่าน) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจต้องปฏิเสธที่จะให้บริการหรือรับบริการที่เกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้บริษัทฯ จะแจ้งท่านให้ทราบหากมีกรณีเช่นนี้ในเวลาที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ จะไม่สามารถให้บริการแก่ท่านในการจัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่ของท่าน หากบริษัทฯ ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นชื่อ ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของท่าน ซึ่งบริษัทฯ ต้องใช้ในการให้บริการดังกล่าวแก่ท่าน
5. การใช้คุกกี้ (Cookies) บนเว็บไซต์ของบริษัท
บริษัทฯ ได้ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม เช่น คุกกี้ (Cookies) หรือ Tags เพื่อรวบรวมข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ อย่างไร เทคโนโลยีในการติดตามช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของ บริษัทฯ เช่น ทำให้เราสามารถตรวจสอบว่ามีการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและของเราในอดีตหรือไม่ เพื่อบันทึกประวัติการซื้อสินค้า หรือประวัติการเข้าเยี่ยมชม website การตั้งค่าภาษาของท่านไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์ของเราอีก เมื่อท่านได้มีการบันทึกข้อมูลการตั้งค่าคุกกี้แล้ว การตั้งค่าดังกล่าวจะนำไปใช้กับการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม อาจจะมีเหตุผลทางด้านเทคนิคที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ดังนั้น จึงไม่สามารถรับประกันได้ในกรณีเหล่านี้ เช่น การที่ท่านตั้งเบราว์เซอร์ของท่านใหม่ การลบคุกกี้ หรือการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯ จากเบราว์เซอร์หรือเครื่องมืออื่น การตั้งค่าคุกกี้ที่ท่านทำไว้อาจสูญหายได้ ในหลาย ๆ กรณี ท่านสามารถควบคุมเทคโนโลยีในการติดตามโดยการใช้เบราว์เซอร์ของท่านเอง กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านได้มีการตั้งค่าตามที่ท่านต้องการว่าให้มีการเตือนหรือยอมรับเทคโนโลยีการติดตาม เช่น คุกกี้ หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ ท่านสามารถหาความสามารถเฉพาะของเบราว์เซอร์ของท่านและคำแนะนำในวิธีการใช้งานดังกล่าวได้จากคู่มือหรือไฟล์ช่วยเหลือของเบราว์เซอร์ของท่าน การปฏิเสธ การจำกัดการใช้งาน หรือการปิดใช้งานเทคโนโลยีการติดตาม อาจทำให้ประสิทธิภาพของการให้บริการของเว็บไซต์ของบริษัทลดลง หรือบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
6. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน
บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ทั้งนี้รวมถึงกรณีต่าง ๆ เช่น การเก็บข้อมูลเพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย กฎระเบียบ การบัญชี หรือการรายงาน เพื่อเป็นการปฏิบัติงานด้านกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ในการกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บข้อมูลของท่าน บริษัทฯ จะพิจารณาถึงปริมาณ ลักษณะ และความอ่อนไหวของข้อมูลของท่าน (sensitivity) ความเสี่ยงจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของท่าน และบริษัทฯ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้ด้วยวิธีการอื่นหรือไม่ ตลอดจนข้อกำหนดทางกฎหมายที่ใช้บังคับ
โดยทั่วไป บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลของท่านไว้ตลอดอายุสมาชิก KingCard (ในกรณีที่ท่านเป็นสมาชิก) หรือจนกว่าธุรกรรมระหว่างท่านกับเราจะสิ้นสุด และภายหลังจากนั้นตลอดระยะเวลาอายุความสูงสุดตามกฎหมาย (ทั้งนี้ กฎหมายไทยมีกำหนดระยะเวลาอายุความทั่วไปสูงสุดไม่เกิน 10 ปีนับจากวันสิ้นสุดสัญญา) อย่างไรก็ตามอาจมีกรณีที่บริษัทฯ เก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลาที่สั้นกว่านั้น
ในกรณีของข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลนั้นไว้เป็นระยะเวลาเพียง 30 วัน อนึ่ง หากข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดเกี่ยวข้องกับกรณีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งโดยเฉพาะ บริษัทฯ อาจต้องเก็บข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นระยะเวลานานกว่าที่ระบุข้างต้น เช่น กรณีการสอบสวนเหตุอาชญากรรมในบริเวณสาขา หรือกรณีที่มีการใช้ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดีต่าง ๆ
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บข้อมูลที่ใช้กับข้อมูลของท่าน กรุณาติดต่อบริษัทฯ ที่ Kingwatsadu@gmail.com หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ (Terms and Conditions) ที่เกี่ยวข้อง
7. การเปิดเผยข้อมูลของท่าน
บริษัทฯ อาจต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลของท่านกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นดังที่จะระบุท้ายนี้ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ดังรายละเอียดในข้อ 4 (วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการใช้ข้อมูลของท่านโดยบริษัทฯ)
ข้อมูลของท่านจะถูกเปิดเผยภายในบริษัทฯ บริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัท”) ทั้งนี้ บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลของท่านกับกลุ่มบริษัทเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ และเพื่อให้บริการแก่ท่านด้วยคุณภาพสูงสุด
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลต่อไปนี้เมื่อมีเหตุดังต่อไปนี้ (โดยอยู่ภายใต้ข้อกำหนดทางธุรกิจซึ่งบริษัทฯ อาจเข้าทำกับท่าน)
8. สิทธิของท่าน
ในบางสถานการณ์ ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายในการเคารพสิทธิของท่าน และบริษัทฯ จะดำเนินการทันทีและให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่บังคับใช้เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของท่าน
สิทธิของท่านมีรายละเอียดดังนี้
• สิทธิในการถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลของท่านบนฐานความยินยอม ท่านอาจถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้
• สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอการยืนยันว่าบริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูลของท่านหรือไม่ มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลของท่าน และรายละเอียดว่าบริษัทฯ มีการใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร
• สิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูล ในบางกรณี ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลของท่านที่อยู่ในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ ทั้งนี้เป็นสิทธิที่ใช้กับข้อมูลของท่านที่ท่านได้ให้แก่บริษัทฯ สิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูลนี้ใช้เฉพาะกรณีซึ่งท่านให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล หรือต้องมีการประมวลผลข้อมูลเพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเท่านั้น
• สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลโดยบริษัทฯ ในกรณีดังนี้ (ก) หากว่าบริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลของท่านบนพื้นฐานของประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ (ข) หากว่าบริษัทฯ ใช้ข้อมูลของท่านเพื่อประโยชน์ด้านการตลาดโดยตรง หรือ (ค) หากว่าข้อมูลที่ประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
• สิทธิขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี ท่านมีสิทธิขอให้ลบข้อมูลบางส่วนซึ่งบริษัทฯ มีอยู่ แต่ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวมิได้ครอบคลุมถึงการขอให้ลบข้อมูลทั้งหมด บริษัทฯ จะพิจารณาคำขออย่างละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การประมวลผลตามที่แจ้งไว้ข้างต้นและตามข้อกำหนดของ กฎหมายที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของท่าน
• สิทธิในการขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี ท่านมีสิทธิระงับการประมวลผลข้อมูลของท่านในบางสถานการณ์ ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวจะเกิดขึ้นในกรณีที่ท่านได้โต้แย้งความถูกต้องของข้อมูลของท่าน ในกรณีที่ท่านคัดค้านการประมวลผลข้อมูล หากการประมวลผลข้อมูลของท่านไม่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งต้องมีการลบหรือทำลายแต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน ในกรณีที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลของท่านแต่ท่านขอให้เก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือในกรณีที่บริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลของท่านในการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอเพื่อคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
• สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน หากบริษัทฯ มีเหตุผลอันสมควรที่จะไม่แก้ไขข้อมูลของท่านตามที่ท่านร้องขอ ท่านมีสิทธิให้บริษัทฯ บันทึกคำร้องของท่านไว้ในบันทึกของบริษัทฯ ในเรื่องการดำเนินการประมวลผลข้อมูล และ
• สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียนหากท่านเห็นว่าบริษัทฯ หรือพนักงานของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้
ท่านอาจใช้สิทธิใดๆ ของท่านในเรื่องดังกล่าวข้างต้นเมื่อใดก็ได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิผ่านช่องทาง Kingwatsadu@gmail.com ทั้งนี้ ท่านไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงข้อมูลของท่าน (หรือใช้สิทธิอื่นใดของท่าน) แต่ทั้งนี้อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามแต่กรณีหากพบว่าคำขอของท่านไม่มีมูล มีการขอซ้ำ หรือมีจำนวนมากเกินจำเป็น อนึ่ง บริษัทฯ อาจปฏิเสธไม่ดำเนินการตามคำขอของท่านหากเป็นกรณีดังกล่าว
บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อช่วยให้บริษัทฯ ยืนยันการระบุตัวตนของท่าน และการใช้สิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลของท่าน (หรือในการใช้สิทธิอื่นใดของท่าน) ทั้งนี้เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลของท่านมีการเปิดเผยแก่บุคคลใดซึ่งไม่มีสิทธิได้รับข้อมูลนั้น บริษัทฯ อาจติดต่อกับท่านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับคำขอของท่าน ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินการตอบสนองคำขอของท่านอย่างรวดเร็ว
บริษัทฯ จะพยายามตอบสนองคำขอโดยชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดภายในเวลา 30 วัน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอหลายคำขอ ในกรณีนี้ บริษัทฯ จะแจ้งท่านและคอยรายงานความคืบหน้าของกรณีให้ท่านทราบ
9. การติดต่อบริษัทฯ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย
หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับเอกสารฯ ฉบับนี้ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อดังนี้ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ บริษัท คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ สำนักงานใหญ่ 19/1 หมู่ที่ 9 ถนน ขุขันธ์ ตำบล หนองครก อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ Phone: 045-615-333 หรือ 082-319-8800 Email: kingwatsadu@gmail.com
10. การแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารฯ
เอกสารฯ ฉบับแรกนี้จัดทำในเดือน [4 มิถุนายน 2565] โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุดตามที่แสดงไว้ใน “วันที่แก้ไขเพิ่มเติม” (ถ้ามี) ท่านสามารถขอรับเอกสารฯ ฉบับก่อนได้โดยติดต่อที่ kingwatsadu@gmail.com บริษัทฯ อาจปรับปรุงแก้ไขเอกสารฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทฯ จะแจ้งประกาศการแก้ไขในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 30 วัน ทั้งนี้การที่ท่านใช้บริการของบริษัทฯ ภายหลังจากพ้นระยะเวลาดังกล่าว ถือว่าท่านยืนยันการตกลงยอมรับของท่านต่อเอกสารฯ ฉบับนี้และส่วนที่ปรับปรุงแก้ไขใด ๆ นั้น ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารฯ อย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ อาจจะแจ้งให้ท่านทราบว่าได้มีการปรับปรุงแก้ไขเอกสารฯ นี้ ผ่านทางเว็บไซต์ (https://kingwatsadu.com/) สื่อประชาสัมพันธ์ในสาขา สื่อออนไลน์ หรือช่องทางการติดต่ออื่น
1. คุกกี้คืออะไร
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ประกอบด้วยส่วนของข้อมูลซึ่งมาจากการดาวน์โหลด อาจถูกเก็บบันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือมือถือของท่านที่ต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่างๆ คล้ายกับหน่วยความจำของหน้าเว็บเบราว์เซอร์ เช่น บันทึกข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน บันทึกสถานการณ์เข้าใช้งานในปัจจุบันของท่าน เพื่อช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าใช้งานบริการที่ท่านชื่นชอบในรูปแบบไฟล์ โดยคุกกี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์ของท่าน และเนื้อหาในคุกกี้จะถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยบริการที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น
2. ประโยชน์ของคุกกี้
คุกกี้สามารถจดจำข้อมูลที่จะทำให้การใช้งานเว็บไซต์สะดวกยิ่งขึ้น จดจำประเภทของเบราว์เซอร์ซอฟต์แวร์ วันที่และเวลาเข้าสู่เว็บไซต์ ระยะเวลาการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น คุกกี้จดจำการบันทึกการตั้งค่าการใช้งานเว็บไซต์จะช่วยให้ท่านเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยการตั้งค่านั้นทุกครั้งที่ใช้งาน หากคุกกี้ถูกลบจะทำให้การตั้งค่าทุกอย่างกลับไปที่ค่าเริ่มต้น นอกจากนั้นคุกกี้สามารถแสดงผลว่ามีการเข้าชมส่วนใดของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น เพื่อที่บริษัทฯ จะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่ดีขึ้นและตรงกับความต้องการของท่านได้
3. ประเภทของคุกกี้
คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) | คุกกี้ประเภทนี้สามารถจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ตลอดจนช่วยให้ทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น อีกทั้งเพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายดาย |
คุกกี้ประสิทธิภาพ (Performance Cookies) | คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จำเป็นต้องมีเพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้และเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยตอบสนองต่อความต้องการบริการตามที่ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ร้องขอได้ ตัวอย่างเช่น การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว คุกกี้ที่ช่วยให้สามารถเข้าสู่ระบบไปยังเว็บไซต์ที่ปลอดภัยได้ |
คุกกี้กำหนดเป้าหมาย (Targeting Cookies) | คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ และนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น การเลือกแสดงโฆษณาสินค้าที่ท่านสนใจ การป้องกันหรือการจำกัดจำนวนครั้งที่ผู้ใช้บริการจะเห็นหน้าเว็บไซต์ของโฆษณาซ้ำๆ เพื่อช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณา |
4. ระยะเวลาที่คุกกี้จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของท่าน
• คุกกี้แบบช่วงเวลา (Session Cookies) จะถูกลบโดยอัตโนมัติเมื่อท่านปิดเบราว์เซอร์5. ทางเลือกเกี่ยวกับคุกกี้
ท่านสามารถปิดการทำงานของคุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อระงับการรวบรวมข้อมูลโดยคุกกี้ในอนาคต การปิดการทำงานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้ท่านใช้งานฟังก์ชันบางอย่างหรือทั้งหมดของบริการดังกล่าวได้อย่างไม่ราบรื่น อย่างไรก็ตามบริการบางอย่างบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ จำเป็นต้องมีการใช้คุกกี้บางประเภทของท่านหากท่านใช้งานเว็บไซต์ต่อไปถือว่าท่านยอมรับการใช้คุกกี้ที่ระบุข้างต้น สามารถศึกษาวิธีการจัดการคุกกี้ของแต่ละเบราว์เซอร์ได้ที่
เบราว์เซอร์และวิธีการจัดการ
Chrome6. การเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้คุกกี้
บริษัทอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้คุกกี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ การดำเนินงานของบริษัท และข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นจากท่าน ซึ่งบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบบนเว็บไซต์ของบริษัท หรืออาจส่งประกาศแจ้งให้ท่านทราบโดยตรง
ทั้งนี้ ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของเอกสารการแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ได้ที่ Kingwatsadu@gmail.com
นโยบายการใช้คุกกี้นี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2565